ยุคนี้ มนุษย์เราไม่ได้มองอาหารเป็นแค่เพียงปัจจัยสี่ ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตเท่านั้น เพราะการเลือกรับประทานอาหารยังสะท้อนแง่มุมเชิงวัฒนธรรม บ่งบอกถึงไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคด้วย ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่ทุกวันนี้ มี ฟู้ดเทรนด์ (Food Trend) หรือเทรนด์อาหารเกิดขึ้นหลากหลายสไตล์ ให้เหล่าสาวกผู้ชื่นชอบการชิม ลิ้มลอง ได้ไปตามติด โดยแต่ละเทรนด์นั้น ก็มีความโดดเด่นที่แตกต่างกันไป และในปีนี้ ต้องบอกเลยว่า ‘ฟู้ดเทรนด์ ปี 2019’ ที่ยังคงมาแรง คือ เทรนด์การบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพเป็นหลัก ซึ่งสื่อให้เห็นว่าผู้คนให้ความใส่ใจกับการกินเพื่อสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ทว่า ที่เพิ่มเติมมา คือ การใส่นวัตกรรมและเทคโนโลยีทันสมัยไปในกระบวนการผลิต เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อาหารที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่อย่างตรงจุดด้วย เทรนด์อาหาร
4 ฟู้ดเทรนด์ ปี 2019 มาแรง ในยุคที่อาหารต้องเป็นตัวแทนสื่อถึง ไลฟ์สไตล์ &รสนิยม คนกินด้วย
จากบทความที่เผยแพร่ผ่าน เว็บไซต์ Foodinnopolis อุทยานวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย ซึ่งได้หยิบเอาเรื่องราวน่าสนใจของ 4 ฟู้ดเทรนด์ ปี 2019 มานำเสนอนั้น ได้บอกให้รู้ว่า
“ในปีหน้านี้เทรนด์รักสุขภาพยังคงมาแรงอย่างต่อเนื่อง ตามความตั้งใจในการดูแลสุขภาพของเหล่าผู้บริโภคที่อยากมีอายุยืนยาวหรือเรียกได้ว่า อยากสูงวัยแบบสุขภาพดี ส่งผลให้ปีนี้ อาหารและเครื่องดื่มที่เสริมสร้างข้อและกระดูกให้แข็งแรง บำรุงสมอง ป้องกันการเกิดโรคมะเร็งและหัวใจ ยังคงได้รับความนิยม นอกจากนี้เทรนด์ที่กำลังมาแรงขึ้นเรื่อยๆ คือ เมื่อคนโสด ไม่ใช่โสดเฉยๆ แต่เป็นคนโสดที่มีเงิน มีกำลังซื้อ แถมเป็นพวกสุขนิยม ค้นคว้าหาความรู้ก่อนตัดสินใจ ใช้จ่ายเพื่อตัวเอง คนกลุ่มนี้จะค้นหาและผลักดันให้เกิดเทรนด์อาหารและเครื่องดื่มที่แปลกใหม่ ตอบสนองความต้องการไลฟ์สไตล์ของตนเองมากขึ้น”
และต่อไปนี้คือข้อมูลน่าสนใจของ 4 ฟู้ดเทรนด์ ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ที่คาดว่าจะมาแรงตลอดปี 2019 นี้ ซึ่งหากเหล่าผู้ประกอบการหรือ สตาร์ทอัพ สามารถนำจุดเด่นของเทรนด์เหล่านี้ไปปรับใช้ ย่อมสร้างความได้เปรียบให้กับธุรกิจของตนได้ไม่มากก็น้อย

จับตา Clean label จะมาแทนที่ “Natural label”
คำว่า อาหารที่ผลิตจากธรรมชาติแท้ๆ คงไม่ตอบโจทย์และเติมเต็มความต้องการของผู้บริโภคอีกต่อไป เพราะผู้บริโภคยุคใหม่ฉลาดเลือก ฉลาดซื้อมากกว่านั้น เทรนด์ความนิยมสินค้าที่ติดฉลากเป็น clean label จึงมาแรง เพราะสินค้าประเภทนี้ต้องระบุถึงส่วนผสมในผลิตภัณฑ์นั้นอย่างครบถ้วนว่าปราศจากสารสังเคราะห์ สารให้ความหวานทดแทนน้ำตาล สีและกลิ่นสังเคราะห์ รวมไปถึง ผ่านกระบวนการแปรรูปน้อย ใช้ส่วนผสมเรียบง่ายจากธรรมชาติ
ขณะที่มีสินค้าบางประเภทที่ตั้งใจใช้ Clean label มาเป็นจุดขาย จะระบุละเอียดถึงแหล่งที่มาและกระบวนการผลิตวัตถุดิบแต่ละตัวเลยทีเดียว เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคที่รักสุขภาพให้มากที่สุด ดังนั้น เทรนด์clean label ในอนาคต จึงเป็นตัวชี้วัดหนึ่งในการตัดสินแบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหารพรีเมียม โดยแบรนด์ที่จะประสบความสำเร็จต้องแสดงความจริงใจผ่าน Clean label บนสินค้าของตน และสามารถพิสูจน์ให้เห็นได้ว่าข้อมูลที่ระบุบนฉลากนั้นเป็นความจริงอีกด้วย

เทรนด์ Plant based food กำลังมา ตามจำนวนผู้บริโภค vegan ที่เพิ่มมากขึ้น
นิยามของ Plant based food คือ การรับประทานอาหารพืชเป็นหลักในรูปแบบใกล้เคียงธรรมชาติ เป็นหนึ่งในแนวทางการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ ซึ่งแนวทางนี้ได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยในหลายประเทศทั่วโลก ทั้งในยุโรปและอเมริกา โดยยอดขาย plant based food ในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นกว่า 8% ในปี 2017 ผลิตภัณฑ์อาหารที่มาแรงตามเทรนด์นี้ มักมีส่วนประกอบหลักเป็นผลไม้ ผัก ธัญพืช ถั่ว สมุนไพร และสารสกัดจากพืช ซึ่งตอบสนองความเชื่อของผู้บริโภคว่าผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มจากพืชจะสามารถสร้างเสริมให้เกิดผลดีต่อสุขภาพในแบบองค์รวม
นอกจากนั้น ผู้บริโภคที่นิยมเทรนด์นี้ ยังบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า plant based food มีความเป็นธรรมชาติและมีคุณค่าทางโภชนาการสูงกว่าอาหารธรรมดาทั่วไป ทำให้ในปี 2019 คนจะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ระบุคุณค่าทางอาหารแบบเฉพาะเจาะจงไปมากกว่าแค่คำว่า “vegan” เพราะต่อไปผู้บริโภคยังศึกษาค้นคว้าประโยชน์ของวัตถุดิบสกัดจากพืชแต่ละชนิด แล้วเปรียบเทียบคุณสมบัติ จากนั้นก็จะไปทดลองซื้อมารับประทาน ถ้าพิสูจน์แล้วว่าเข้าคอนเซปต์plant based food และอร่อยถูกปาก จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการซื้อซ้ำและบอกต่อ ส่วนวัตถุดิบจากธรรมชาติที่มาแรงในปี 2019 ได้แก่ เห็ด ผักโขม (amaranth) และกัญชา

อาหารพิเศษสำหรับคนพิเศษ Personalized diet & Personalized Nutrition มีความต้องการสูง
คนพิเศษ ที่ว่านี้ หลายถึง การผลิตอาหารที่ตอบสนองความต้องการของผ็ที่ต้องการสารอาหารในบริบทที่แตกต่างกันไป อย่างเทรนด์ Personalized diet หมายถึง อาหารที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ที่กำลังลดความอ้วน อย่างอาหารที่มีปริมาณแป้งและน้ำตาลน้อย เพิ่มโปรตีน ไขมันดี หรือผลิตจากผักผลไม้ เป็นต้น โดยเทรนด์ Personalized diet ได้ขยายไปในรูปแบบของการอาศัยเทคโนโลยีใหม่อย่าง AI และ big data analytics มาสร้างโปรแกรมคำนวณปริมาณแคลอรีอาหารในสมาร์ทวอทซ์ ซึ่งจะลิงก์กับบริษัทอาหารยักษ์ใหญ่ ที่จะเข้ามาแนะนำเมนูอาหารและจัดเตรียมส่งอาหารให้กับผู้บริโภคโดยตรง
ส่วนเทรนด์ Personalized Nutrition ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจากคนทั่วโลก เนื่องจากยอดจำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตอันเนื่องมาจากโรคในกลุ่มไม่ติดต่อเรื้อรัง (Non-Communicable Diseases: NCDs) ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก ทำให้เกิดการตื่นตัวกับการดูแลวิถีการกินของตัวเองมากขึ้น กอปรกับการเตรียมตัวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย ทำให้บรรดาบริษัทผู้ผลิตอาหารทั้งรายเล็ก รายใหญ่ ต่างขยายไลน์การผลิตมาผลิต “สมาร์ทฟู้ด” เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้ป่วยและผู้สูงอายุมากขึ้น
สำหรับเทรนด์นี้ ซีพีเอฟ บริษัทยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตอาหารของไทยได้แถลงข่าวล่าสุดว่า ทางบริษัทได้ขยายกำลังการผลิตอาหารสำเร็จรูป หรือสมาร์ทฟู้ด รองรับกลุ่มผู้ป่วย ผู้สูงอายุ เพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ ใช้วัตถุดิบที่มีประโยชน์เสริมสร้างภูมิต้านทานของผู้บริโภคเฉพาะกลุ่ม โดยได้ตั้งงบลงทุนผลิตอาหารประเภทนี้ไว้ถึง 1,300 ล้านบาท พร้อมวางแผนเมกะโปรเจคตั้ง ศูนย์นวัตกรรมอาหารใหญ่ที่สุดในอาเซียน ที่มีนักเทคโนโลยีอาหาร เชฟ และผู้เชี่ยวด้านอาหารร่วมกันทำงาน ในโรงงานต้นแบบเนื้อที่กว่า 10 ไร่ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งผลิตภัณฑ์แรกๆที่จะออกมาตีตลาด คือ สมาร์ทซุป และผลิตภัณฑ์บำรุงเซลล์สมอง ที่ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ

Evergreen consumption รักตัวเองอย่างเดียวไม่พอ ผู้บริโภคยุคนี้ต้องรักษ์โลกด้วย
เทรนด์ Evergreen consumption บ่มเพาะผู้บริโภคพันธุ์ใหม่ที่จะตัดสินใจเลือกอาหารเพื่อรับประทานทั้งที ต้องดูไปถึงกระบวนการผลิตตั้งแต่ฟาร์มจนถึงร้านขายของชำ โดยตลอดกระบวนการผลิตต้องมีการบริหารจัดการให้เกิดประสิทธิภาพ สร้างมลพิษและของเสียให้น้อยที่สุด การผลิตที่ก่อให้เกิดการสูญเสียทรัพยากรมากเกินจำเป็น อย่างกระบวนการผลิตที่เลือกเหมาซื้อผัก ผลไม้ แล้วคัดเอาแต่ ผัก ผลไม้ ที่สวย ที่ไม่สวยก็คัดทิ้ง ซึ่งก่อให้เกิดขยะมากเกินจำเป็น ถ้าผู้บริโภครู้ข้อเท็จจริงนี้ ก็จะไม่ตัดสินใจซื้อสินค้าแบรนด์นั้นในที่สุด
นอกจากนั้น การเกิดขึ้นของนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมยังมีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อของผู้ตามเทรนด์ Evergreen consumption ด้วย ซึ่งในปัจจุบัน กลุ่มอุตสาหกรรมอาหารถือได้ว่าเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมแรกที่พลาสติกฐานชีวภาพได้เข้าไปมีบทบาทสำคัญอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรูปแบบของบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารและเครื่องดื่ม รวมไปถึงการประยุกต์ใช้พลาสติกชีวภาพกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ใช้แล้วทิ้งที่สัมผัสกับอาหารได้ เช่น ช้อน-ส้อม แก้วน้ำ ขวดน้ำ ถาดใส่อาหาร เป็นต้น ดังนั้น ผู้บริโภคที่เป็นคนรุ่นใหม่ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ก็ย่อมมีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าที่มีบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกแบบนี้มากกว่าบรรจุภัณฑ์ธรรมดาแน่นอน
ที่มา : https://www.salika.co/2019/01/28/4-food-trends-2019/